ข่าวกีฬา เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอมัน
ทำภารกิจสำคัญได้สำเร็จเมื่อนำ ลิเวอร์พูล บุกไล่อัด คริสตัล พาเลซ 2-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤาภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาคว้าอันดับ 3 ได้อย่างสุดยอด
ผลงานของ “หงส์แดง” ในแมตช์นี้ถือว่าเป็นการมอบของขวัญให้กับสาวก “เดอะ ค็อป” ที่เข้ามาชมเกมในสนามจำนวน 10,000 คน เมื่อพวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง และคว้า 3 คะแนนที่แสนล้ำค่า พร้อมตั๋วไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ในความสุขก็มีความเศร้าอยู่บ้าง เพราะนี่จะเป็นเกมสุดท้ายของ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ในสีเสื้อของ “เดอะ เร้ดส์” เพราะเจ้าตัวคงจะโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ส่วนจุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหน ก็รอติดตามกันต่อไป
1. ท็อปโฟร์ที่ต้องการทำสำเร็จ
ต้องยอมรับว่านี่คือฤดูกาลที่พลิกผันสำหรับ ลิเวอร์พูล จริงๆ เพราะพวกเขาต้องเจอกับปัญหามากมายโดยเฉพาะผู้เล่นหลักบาดเจ็บ และฟอร์มก็ร่วงกราวรูดนับตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสเมื่อปีที่ผ่านมา
สถานการณ์นับตั้งแต่ต้นปี 2021 ผลงานของ “หงส์แดง” มีแต่ทรงกับทรุด และในบางช่วงพวกเขาหลุดไปอยู่ในอันดับ 8 บนตารางลีกด้วยซ้ำ ทำให้โอกาสในการคว้าท็อปโฟร์เลือนลางเหลือเกิน
2. ซาลาห์ พลาดรางวัลรองเท้าทองคำ
การลุ้นคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุด หรือ “โกลเด้นบูท” ในฤดูกาลนี้เข้มข้นจนถึงนัดสุดท้ายเลยทีเดียว แต่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องพลาดรางวัลเพราะไม่สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายในเกมสุดท้ายของลีกได้
3. ลาก่อน ไวจ์นัลดุม ขอให้โชคดี
ในความสุขก็แฝงไปด้วยความเศร้าเช่นกัน เพราะดูเหมือนว่านี่คือแมตช์สุดท้ายของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ภายใต้สีเสื้อ “หงส์แดง”
4. โจมตีทางปีกสร้างปัญหาให้พาเลซ
แมตช์นี้แท็กติกของ คล็อปป์ เลือกที่จะใช้แผนการเล่นที่เน้นการโจมตีจากทางกราบทั้งสองฝั่ง เนื่องจาก คริสตัล พาเลซ มีปัญหาในการตั้งรับเมื่อโดนคู่แข่งเล่นงานจากจุดนี้ซึ่งแน่นอนว่า นายใหญ่ชาวเยอรมัน คิดถูกทุกประการ